ซาดิโอ มาเน่ เหมาคนเดียวสองประตู ลิเวอร์พูล ท็อปฟอร์มสุดๆ โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมัน 3-2 คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ “เอฟเอ คัพ” ได้สำเร็จ โดยเส้นทางการลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ของ “หงส์แดง” ยังเปิดกว้าง

ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 4 ทีมสุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟาดแข้งกันที่สนามเวมบลีย์

น.9 ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะลูกเตะมุม อิบราฮิม่า โกนาโต้ วิ่งมาโขกเต็มหัวเข้าไปอย่างสวยงาม

น.17 ลิเวอร์พูล ขยับนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ซัคคารี สเตฟเฟน นายประตูของทีมเรือใบสีฟ้าไปทำช้าหน้าประตูตัวเอง โดน ซาดิโอ มาเน่ สไลด์กวาดบอลเข้าประตูไปแบบงงๆ

น.45 ลิเวอร์พูล ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ประตูหนีไปอีกเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ธิอาโก อัลคันทาร่า ยกบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ เอียงตัววอลเลย์บอลเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสุดสวย และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมบุกใส่ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เริ่ม และก็มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 จากการยิงของ แจ็ค กรีลิช ในนาทีที่ 47

“เรือใบสีฟ้า” พยายามจะเปิดเกมบุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล เพื่อทำประตูไล่ตีตื้นให้ได้ แต่แนวรับของทีม “หงส์แดง” ยังเล่นกันอย่างมีระเบียบวินัย แทบไม่ปล่อยให้ “เรือใบ” เจอช่องเจาะเข้าไปทำประตู

แต่แล้วในนาทีที่ 90 แมนฯ ซิตี้ ที่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาได้ประตูตีตื้นมาอีกเป็น 2-3 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ เปิดยัดเข้ากลางบอลแฉลบ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาเข้าทาง แบร์นาร์โด ซิลวา วิ่งมายิงจ่อๆ เข้าไป

เวลาที่เหลือในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเกมบุกแหลกเพื่อหวังจะทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ

หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง คริสตัล พาเลซ หรือเชลซี และทำให้ “หงส์แดง” ยังอยู่บนเส้นทางการลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้