“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทำได้ตามเป้า เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ในศึก “แดงเดือด” พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แซงนำจ่าฝูง พร้อมโยนความกดดันให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมเมื่อคืนวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา

ครึ่งแรก แมนฯยู ไม่มีโอกาสลุ้นประตูแม้แต่ครั้งเดียว เพราะนอกจากจะไร้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ไม่ได้ลงสนาม เนื่องจากสภาพจิตใจเพิ่งสูญเสียลูกฝาแฝดไปหนึ่งคน ปอล ป๊อกบา เล่นได้แค่ 10 นาที ได้รับบาดเจ็บ ต้องถูกเปลี่ยนออก และเป็น เจสซี ลินการ์ด ลงมาแทน

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ 2 ประตูขึ้นนำไปก่อน จาก หลุยส์ ดิอาซ ที่ได้แปโล่งๆ ที่กลางประตูเข้าไปนาทีที่ 5 กับ โม ซาลาห์ ที่รับบอลจากเพื่อนเข้าไปแปเรียดด้วยเท้าซ้ายไม่เหลือในนาทีที่ 22 เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯยู แก้เกมส่ง จาดอน ซานโช ลงมาแทนปราการหลังอย่าง ฟิล โจนส์ ที่ได้ออกสตาร์ทแบบสุดเซอร์ไพรส์ นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล ตอกฝาโลงนำ 3-0 จาก ซาดิโอ มาเน่ ก่อนที่จะหมดเวลา 5 นาที มาได้เพิ่ม 4-0 จาก โม ซาลาห์ ก่อนจะครบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้

จากชัยชนะในนัดนี้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 76 แต้มจาก 32 นัด แซงรั้งจ่าฝูงชั่วคราวพร้อมโยนความกดดันให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 74 แต้ม จาก 31 นัด ที่มีโปรแกรมเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ ไบรจ์ตัน เตะกันคืนวันพุธที่ 20 เมษายนนี้ต่อไป

ส่วน แมนฯยู แพ้นอกบ้าน 3 นัดติดต่อกัน ความหวังในการติดท็อปโฟร์ตกมารั้งที่ 6 มี 54 แต้มจาก 33 นัด โปรแกรมถัดไปหนักหนาสาหัส คือ ต้องออกไปเยือนทีมอันดับเหนือกว่าอย่าง อาร์เซนอล เตะกันวันเสาร์ที่ 23 เมษายนนี้ อีกด้วย

เดอะ ค็อป ให้กำลังใจ โรนัลโด้ ในนาทีที่ 7

ลินการ์ด ลงมาแทน ป๊อกบา ก็ไม่ช่วยอะไร

ขอขอบคุณ